สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
Search
color contrast
Normal
Black & White
Black & Yellow
font size

เมื่อโลกเติบโตด้วยปัญญาประดิษฐ์ 4 นวัตกรรมพัฒนาเศรษฐกิจ การแพทย์ การสื่อสาร และโลกสีเขียว

16 กรกฎาคม 2568 128

เมื่อโลกเติบโตด้วยปัญญาประดิษฐ์ 4 นวัตกรรมพัฒนาเศรษฐกิจ การแพทย์ การสื่อสาร และโลกสีเขียว 


💻 ครั้งหนึ่ง “AI” เคยเป็นเทคโนโลยีที่ถูกมองว่าเต็มไปด้วยข้อจำกัด พร้อมกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความกังวลต่อการใช้งานในอนาคต แต่วันนี้ AI กลับกลายเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนโลก และอยู่เบื้องหลังแก้ไขปัญหาให้กับผู้คนในหลากหลายด้าน

🎉 เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของ AI ที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ ‘บริษัท A.I. Heart LLC’ ได้กำหนดให้วันที่ 16 กรกฎาคมของทุกปี เป็น “วันขอบคุณปัญญาประดิษฐ์ (AI Appreciation Day)” ซึ่งในตอนแรกการกำหนดวันนี้ขึ้นมา มีเป้าหมายเพื่อใช้ในการโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง A.I. EVE. เท่านั้น แต่ต่อมาก็ได้ขยายความสำคัญเป็นโอกาสในการยกย่อง AI ที่ในฐานะเครื่องมือที่ช่วยแก้ไขปัญหา พร้อมเปิดพื้นที่ให้ทั่วโลกได้ร่วมถกเถียงเรื่อง จริยธรรมของการพัฒนา AI อย่างมีความรับผิดชอบ

🌍 ปัจจุบันหลายๆ ประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยกำลังประสบความท้าทายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกที่ต้องรับมือกับแรงกดดันทางการค้า ระบบสาธารณสุขที่ยังคงมีราคาแพง รวมถึงปัญหาทางสิ่งแวดล้อมที่ยังจัดการไม่ได้ ภายใต้ปัญหาเหล่านี้ AI จึงไม่ใช่แค่เทคโนโลยียุคใหม่ แต่คือ “เครื่องมือ” ที่มีศักยภาพในการช่วยวิเคราะห์ วางแผน และสร้างทางออกใหม่ให้กับปัญหาที่ซับซ้อนได้เป็นอย่างดี

👍🏻 และเนื่องในวันขอบคุณปัญญาประดิษฐ์ NIA ในฐานะหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนผลักดันนวัตกรรมของคนไทย และให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยี AI เข้าไปใช้ในการพัฒนานวัตกรรม จึงจะพาไปทำความรู้จักกับ 4 นวัตกรรม AI ฝีมือคนไทย ที่กำลังสร้างการเปลี่ยนแปลง ทั้งด้านเศรษฐกิจ การแพทย์ การสื่อสาร และโลกสีเขียว ซึ่งจะมีนวัตกรรมเจ๋งๆ อะไรบ้างนั้น ตามไปดูกัน 


ในวันที่โลกต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ทั้งสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน ปริมาณทรัพยากรธรรมชาติที่ลดลง และความต้องการอาหารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การทำเกษตรแบบดั้งเดิมอาจไม่เพียงพอต่อการตอบโจทย์ในอนาคตอีกต่อไป นี่จึงเป็นเวลาที่เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะ “ปัญญาประดิษฐ์” หรือ AI (Artificial Intelligence) ที่กำลังกลายเป็นแรงขับเคลื่อนใหม่ในการยกระดับภาคเกษตรกรรม ให้ก้าวเข้าสู่ “เกษตรแม่นยำ” (Precision Agriculture) 

🌾 AmbiSence Engine หรือระบบบริหารจัดการเซ็นเซอร์บนคลาวด์ จากบริษัท ลิสเซินฟิลด์ จำกัด จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยนวัตกรรมนี้เป็นระบบบริหารจัดการการเกษตรแบบครบวงจร ตั้งแต่วิเคราะห์ธาตุอาหารในดินไปจนถึงติดตามการเจริญเติบโตของพืช อีกทั้งยังมีระบบที่น่าสนใจอย่าง “Farm AI” ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยบริหารจัดการดินเพื่อปลูกพืชให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ พร้อมช่วยวางแผนจัดการผลผลิตอย่างแม่นยำ เพิ่มศักยภาพการส่งออกพืชเศรษฐกิจสำคัญหลายชนิด เช่น ข้าว ข้าวโพดหวาน มันฝรั่ง และอ้อย เป็นต้น

🏆 โดยนวัตกรรม AmbiSence Engine นี้ ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติจาก NIA ที่มอบให้แก่องค์กรที่มีผลงานที่ได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติมาแล้วเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี ที่ยังมีการนำผลงานไปใช้จริงและพัฒนาต่อยอดอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน


🏥 ภาวะงานล้นมือซึ่งทำให้แพทย์ไม่สามารถทุ่มเทเวลาให้กับการตรวจวินิจฉัยได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในกลุ่มแพทย์ด้านรังสีวินิจฉัยซึ่งเป็นกลุ่มที่ขาดแคลนในปัจจุบัน

‘บริษัท Perceptra’ ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน AI จึงมีความคิดที่พัฒนานวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์เพื่อเป็นระบบคัดกรองโรคจากภาพถ่ายเอ็กซเรย์ขึ้นมา เริ่มต้นจากนวัตกรรม “Inspectra CXR” ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Deep Learning ที่สามารถทำงานเลียนแบบสมองมนุษย์ ซึ่งได้มีการเรียนรู้ภาพถ่ายเอ็กซเรย์ปอดกว่า 1.5 ล้านภาพ จึงสามารถวินิจฉัยตรวจพบตำแหน่งที่ผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำกว่า 94% จนได้รับการยอมรับจากแพทย์ทั้งในไทยและต่างประเทศ 

🧑‍⚕️ โดยนวัตกรรม Inspectra CXR ยังมีบทบาทอย่างมากในช่วงโรคระบาดปี 2019 ที่ผ่านมา ด้วยการช่วยลดภาระของทีมแพทย์ในการคัดกรองผู้ป่วย และล่าสุดยังได้ร่วมมือกับ Google เพื่อพัฒนานวัตกรรมในการคัดกรองภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตา ที่มีเป้าหมายที่จะลดความเสี่ยงในการสูญเสียการมองเห็นให้แก่ผู้ป่วยเบาหวาน และสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจคัดกรองที่มีคุณภาพสูงในทุกๆ พื้นที่

🏆 นวัตกรรม Inspectra CXR ถือเป็นการพัฒนาที่น่าสนใจของ HealthTech สตาร์ตอัปในประเทศไทย ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพของการรักษาให้มีประสิทธิภาพและทั่วถึงมากยิ่งขึ้น การันตีด้วยรางวัลมากมายที่ได้รับจากทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน


🌐 ในโลกยุคใหม่ การสื่อสารไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ “คนกับคน” อีกต่อไป เพราะ ‘Chatbot’ กำลังเข้ามามีบทบาทในฐานะผู้ช่วยสนทนา ตัวแทนฝ่ายขาย ไปจนถึงการรับบทเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้คนได้

💬 “Botnoi” Chatbot สัญชาติไทยที่เริ่มต้นจากการเปิดให้ผู้คนสามารถสนทนาได้ผ่านแอปพลิเคชัน LINE ซึ่งต่อมาก็ได้ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยผสานการเรียนรู้ผ่านการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) โมเดลภาษาใหญ่ (LLM) การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) เพื่อพัฒนาให้ AI สามารถสื่อสารได้ใกล้เคียงมนุษย์ จนสามารถทำหน้าที่สื่อสารสำหรับภาคธุรกิจ และเป็นนักจิตวิทยาปัญญาประดิษฐ์ ที่สามารถคัดกรอง ให้คำปรึกษาเบื้องต้นได้

🔉 นอกจากการสื่อสารด้วย Botnoi ยังต่อยอดสู่ ‘AI Voice’ เทคโนโลยีเสียงที่เปลี่ยนเสียงพูดของ AI จากความไร้อารมณ์ ให้กลายเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เสมือนกำลังพูดคุยกับมนุษย์จริงๆ นวัตกรรมนี้สามารถประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย ตั้งแต่ระบบตอบรับอัตโนมัติทางโทรศัพท์ ไปจนถึงเครื่องมือการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ และยังมีระบบแปลภาษาแบบเรียลไทม์ ที่ไม่เพียงแปลคำพูดได้ทันที แต่ยังสามารถรักษาน้ำเสียงและอัตลักษณ์ของผู้พูดเอาไว้ได้อีกด้วย 

🏆 โดย Botnoi Group เป็นหนึ่งในธุรกิจนวัตกรรมที่ NIA ได้ให้การสนับสนุนผ่านกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการให้ทุนเพื่อพัฒนา BOTNOI Smart Chatbot for Mental Health Counseling แพลตฟอร์มการให้คำปรึกษาสุขภาพจิต การเข้าร่วม Soft-Landing ณ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ผ่าน Vienna Startup Package 2024 (Thailand Track) และยังมีการนำ AI ไปใช้ในการแปลภาษาที่งาน SITE ที่ช่วยให้การเสวนาเข้าใจได้ทุกชนชาติอีกด้วย

🌲 ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาด้านต่างๆ มากมายหลายด้าน แต่จากผลการสำรวจล่าสุดในปี 2024 ที่จัดทำโดย ‘Marketbuzzz’ ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พบว่า “ปัญหาสิ่งแวดล้อม” ยังคงเป็นความกังวลอันดับหนึ่งของคนไทย โดยสูงถึง 44% ซึ่งสวนทางกับแนวทางการแก้ไขในปัจจุบันที่ยังไม่ตอบโจทย์ให้กับคนทุกกลุ่มได้มากนัก 

🌍📉 โดยการรายงานคาร์บอนเครดิต เป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจะนำไปสู่ ‘การซื้อขายคาร์บอนเครดิต’ เครื่องมือทางการตลาดที่ในปัจจุบันมีเพียงกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้นที่สามารถขอคาร์บอนเครดิตได้ ดังนั้น ‘บริษัท เวคิน (ประเทศไทย) จํากัด’ ที่ต้องการให้คนทั่วไปได้เข้าถึงประโยชน์ในการใช้คาร์บอนเครดิตจากกิจกรรมทั่วไป จึงพัฒนา เซโร่: ปัญญาประดิษฐ์เพื่อการรับรู้คาร์บอนฟุตปริ๊นและรองรับคาร์บอนเครดิต แพลตฟอร์มสำหรับธุรกิจขนาดเล็กจนถึงคนทั่วไปในการเข้าขอรับการรับรองคาร์บอนเครดิต

🔄 ซึ่งนวัตกรรมนี้อาศัยการติดตามคาร์บอนเครดิตที่เกิดขึ้นโดยระบบ Passive Monitoring ที่จะคำนวณการปล่อยคาร์บอนจากกิจวัตรประจำวันโดยอัตโนมัติ ธุรกรรมต่างๆ ที่ดำเนินการจะไม่สามารถแก้ไขได้เพื่อสร้างความโปร่งใส และหลังจากที่สะสมเครดิตไว้ในระบบ ก็สามารถนำเครดิตเหล่านั้นมาแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งของในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณคาร์บอน หรือสะสมเครดิตไว้ซื้อขายผ่านตลาดคาร์บอนเครดิต เพื่อสร้างรายได้ในอนาคตอย่างยั่งยืน

🏆 โดยนวัตกรรม CERO ได้รับ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ประเภทหน่วยงานภาคเอกชน ประจำปี 2566 จากการเข้ามาเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของธุรกิจสีเขียว และช่วยกระตุ้นค่านิยมรักษ์โลกอย่างยั่งยืน ที่จะช่วยขับเคลื่อนให้ธุรกิจทุกขนาดและประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงกระบวนการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมได้ง่ายๆ

อ้างอิงข้อมูลจาก:
https://aibusiness.com/verticals/ai-appreciation-day-industry-leaders-share-insights#close-modal
https://www.pcmag.com/encyclopedia/term/ai-appreciation-day
https://www.bot.or.th/th/research-and-publications/articles-and-publications/articles/article-2024dec10.html
https://www.bangkokbiznews.com/tech/978364
https://perceptra.tech/resources/about-inspectra-cxr/
https://award.nia.or.th/th/content/category/detail/id/70/iid/583
https://award.nia.or.th/th/content/category/detail/id/70/iid/775
https://spacebar.th/social/sustainability-thai-survey-environmental-awareness-2025
https://www.smethailandclub.com/startup-techstartup/9345.html
https://award.nia.or.th/th/content/category/detail/id/70/iid/709
https://botnoigroup.com/th
https://www.thestorythailand.com/07/07/2025/157517/
https://vekin.tech/feature/cero
https://bit.ly/3ILOkzS