NIA เดินหน้าร่วมกับ 23 หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวง อว. ขับเคลื่อนนโยบาย “อว. For EV” พัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศสู่ Go Green นำร่อง ม.พะเยา เปลี่ยนใช้รถ EV ทั้งหมด ก่อนเปลี่ยนสู่ Green Campus ทุกมหาวิทยาลัย ภายใน 5 ปี ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 5 แสนตันต่อปี

น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือการขับเคลื่อนนโยบาย อว. For EV ของ 23 หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวง อว. เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปเป็น EV HUB ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค โดยมี ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA และ ดร.สุรอรรถ ศุภจัตุรัส รองผู้อำนวยการด้านเศรษฐกิจและสังคม เข้าร่วม เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2567 ณ มหาวิทยาลัยพะเยา จ.พะเยา ระหว่างการลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานของกระทรวง อว. ภายใต้การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน)
น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยตั้งเป้าหมายจะเป็น Hub ของยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยบอร์ดอีวีแห่งชาติได้ตั้งเป้าหมายจะผลิตรถยนต์ที่ไม่ปล่อยมลพิษอย่างน้อยร้อยละ 30 ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดของประเทศไทยภายในปี พ.ศ. 2573 หรือเรียกว่านโยบาย 30@30 ดังนั้น เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล อว. จึงได้มีนโยบาย “อว.For EV” ใน 3 เสาหลัก ได้แก่
1. EV HRD หรือการผลิตกำลังคนให้เพียงพอต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรม เป้าหมาย 150,000 คนใน 5 ปี
2. EV Transformation หรือการเปลี่ยนรถ ICE เป็นรถ EV ในมหาวิทยาลัยและหน่วยงานของ อว. เป้าหมาย 30% ภายในปี 2030 และ
3. EV Innovation เพื่อยกระดับผู้ประกอบการด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ผ่านความร่วมมือจากทั้งภาคการศึกษา ภาครัฐ และ ภาคเอกชน จำนวน 100 ราย โดยการจัดสรรทุนวิจัยจากกองทุน ววน. ประมาณ 3,000 ล้านบาทใน 5 ปี
ดังนั้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจและแสดงความพร้อมของหน่วยงานต่างๆ ในการขับเคลื่อนนโยบาย “อว. For EV” จึงได้มีพิธีลงนาม MOU ขึ้นโดยทุกหน่วยงาน ทุกองคาพยพของ อว.จะร่วมกันขับเคลื่อนนโยบาย อว. For EV โดยมหาวิทยาลัยพะเยาจะเป็นหน่วยงานแรกที่เปลี่ยนมาใช้รถบัส EV จำนวน 30 คัน คาดว่าจะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกปีละ 3,000 ตัน และทุกมหาวิทยาลัยจะร่วมกันเพื่อนำไปสู่การเป็น Green Campus ทั้งประเทศ ซึ่งหากมาตรการ EV Transformation บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย 5,000 คัน ภายในปี 2573 จะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึงปีละ 500,000 ตัน
ทั้งนี้ ภายในงาน NIA ได้ร่วมจัดแสดงผลงานที่ได้รับการสนับสนุนทุนโครงการนวัตกรรม สาขาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่อง ประจำปี 2567 เพื่อสร้างการรับรู้และส่งเสริมให้เกิดการใช้งานจริงเชิญพาณิชย์ต่อไป