สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
Search
color contrast
Normal
Black & White
Black & Yellow
font size

NIA โชว์ศักยภาพ 9 สตาร์ตอัปสายฟู้ดเทคภายใต้โครงการ “SPACE-F” รุ่น 6 ใน SPACE-F Incubator Demo Day

News 18 กันยายน 2568 46

NIA โชว์ศักยภาพ 9 สตาร์ตอัปสายฟู้ดเทคภายใต้โครงการ “SPACE-F” รุ่น 6 ใน SPACE-F Incubator Demo Day

18 กันยายน 2568 - สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับ Thai Union Group, Mahidol University, ThaiBev และ Nestle Thai จัดงาน "SPACE-F Incubator Demo Day" เปิดเวทีสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีอาหาร (FoodTech Startup) แสดงศักยภาพในโครงการ SPACE-F รุ่นที่ 6 ร่วม 9 ราย จากโครงการบ่มเพาะ (Incubator Program) ที่จะมาปฏิรูปอุตสาหกรรมอาหารของโลก ณ ห้อง 111C ชั้น 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) กรุงเทพมหานคร
 
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการ NIA กล่าวเปิดเวทีในครั้งนี้ว่า “NIA ในฐานะผู้กำหนดทิศทางนวัตกรรม พร้อมสนับสนุนและส่งเสริมสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีอาหารที่สร้างสรรค์นวัตกรรมด้านอาหารแห่งอนาคตได้ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นกลไกสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย การเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ การดึงดูดการลงทุน การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ การเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานนวัตกรรม พร้อมทั้งก้าวสู่ประเทศที่มีความสามารถในการผลิต พัฒนา และส่งออกอาหารระดับท็อปของโลก ด้วยแนวคิด Groom – Grant – Growth – Global ผ่านโครงการ “SPACE-F” โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งการเติบโตของธุรกิจเทคโนโลยีอาหารระดับสากล ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ผสานพลังความร่วมมือจากพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนรายใหญ่ในอุตสาหกรรมอาหารภายใต้มาตรฐานสากล ตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกสตาร์ตอัป การบริหารจัดการเครือข่ายพันธมิตร ไปจนถึงการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการได้ทดสอบแนวคิดกับองค์กรระดับโลก”
 
“ในปีนี้โครงการ SPACE-F ได้สนับสนุนฟู้ดเทคสตาร์ตอัปทั้งในและต่างประเทศจำนวน 18 ราย ทั้ง สตาร์ตอัปในโครงการบ่มเพาะ และสตาร์ตอัปในโครงการเร่งการเติบโต (Incubator and Accelerator Program) ให้สามารถพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ตลาดได้อย่างแท้จริง ซึ่งต้องอาศัยพาร์ทเนอร์ ทั้งภาครัฐ เอกชน จากทั้งในและต่างประเทศ ธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารรายใหญ่เข้ามาร่วมเติมเต็ม ได้แก่ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มหาวิทยาลัยมหิดล บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด โดยงานนี้ 9 สตาร์ตอัปจากโครงการบ่มเพาะ (Incubator Program) ได้ขึ้นเวทีแสดงศักยภาพการสร้างสรรค์นวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต ผ่านการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญระดับสากล เพื่อดึงดูดนักลงทุน และพันธมิตรจากทั่วโลก ในงาน “SPACE-F Incubator Demo Day” ดังนั้น โครงการ SPACE-F จึงไม่เพียงเป็นแพลตฟอร์มสร้างสตาร์ตอัปอาหาร แต่ยังเป็นจุดเชื่อมโลกนวัตกรรมกับตลาดจริง ช่วยผลักดันผู้ประกอบการไทยและนานาชาติสู่การเติบโตในอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต เป็นจุดแข็งที่ทำให้โครงการนี้เติบโตอย่างยั่งยืน”
 
นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก รศ. ดร.สิทธิวัฒน์ เลิศศิริ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ขึ้นกล่าวปิดงาน พร้อมกันนี้ยังได้รับเกียรติจาก ดร.สุรอรรถ ศุภจัตุรัส รองผู้อำนวยการด้านการเงินนวัตกรรม NIA Dr. Magnus Bergkvis Ad Interim Project Director บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รองศาสตราจารย์ ดร.วิริยะ เตชะรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (iNT) มหาวิทยาลัยมหิดล และผู้บริหารจากเครือข่ายหน่วยงานพันธมิตร บริษัทเอกชนขนาดใหญ่ นักลงทุน สตาร์ตอัป และผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานมากกว่า 160 คน
 
รวมทั้งได้รับเกียรติจาก Mr. Omar Lechuga, Lead the Research, Development and Applications Team in South East Asia, Kerry Ingredients APAC เข้าร่วมบรรยายในหัวข้อ Trends in Ingredients Over the Next 5 Years SPACE-F จะเป็นกลไกการพัฒนาและส่งเสริมฟู้ดเทคสตาร์ตอัปอย่างครบวงจร และช่วยเสริมความเข้มแข็งให้กับระบบนิเวศของไทยให้ก้าวขึ้นเป็น “ศูนย์กลางด้านนวัตกรรมอาหาร” ของภูมิภาค โดยในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา SPACE-F สามารถสร้างผลลัพธ์ที่โดดเด่นด้วยการส่งเสริมระบบนิเวศฟู้ดเทคสตาร์ตอัปไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งการระดมทุนรวมกว่า 5,000 ล้านบาท และการสนับสนุนสตาร์ตอัปกว่า 100 รายจาก 18 ประเทศทั่วโลก ให้สามารถพัฒนาธุรกิจและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความท้าทายในปัจจุบัน เพื่อตอกย้ำความเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีอาหารของประเทศไทยในเวทีโลก โครงการยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนนวัตกรรมอาหารให้เติบโตอย่างยั่งยืน และสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทยในการก้าวสู่การเป็น “ครัวของโลก” ด้วยจุดแข็งด้านทรัพยากรธรรมชาติ การพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และการรักษามาตรฐานความปลอดภัยอาหารในระดับสากล SPACE-F ปีที่ 6 จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการแสดงศักยภาพของสตาร์ตอัปรุ่นใหม่ที่พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารของไทยสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน
 
ภายในงาน SPACE-F Batch 6 Incubator Demo Day มีสตาร์ตอัปที่ร่วมโชว์ผลงานทั้งสิ้น 9 ทีม ได้แก่
1. BioNano Solution (ไทย): เทคโนโลยีนาโนเอนแคปซูล เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหารสำคัญในอาหารเสริมและเวชภัณฑ์ได้ถึง 5 เท่า
2. Haruna (ไทย): พัฒนาพรีไบโอติกจากแป้งต้านการย่อยในข้าวไทย เพื่อช่วยปรับสมดุลลำไส้และแก้ปัญหาท้องผูกเรื้อรัง
3. HILLKOFF (ไทย): อัปไซเคิลเปลือกกาแฟเชอร์รี่ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ เช่น ไฟเบอร์ผงและชาเพื่อผู้บริโภครุ่นใหม่
4. LOCOL (ไทย): ใช้ของเสียจากโกโก้สร้างเนื้อทางเลือกที่ยั่งยืน มีคาร์บอนฟุตพรินต์ต่ำและโปรตีนสูง
5. Karmic Global (UAE): สร้างพลาสติกชีวภาพย่อยสลายได้จากเปลือกกุ้งเหลือทิ้ง เพื่อลดขยะในอุตสาหกรรมอาหารทะเล
6. ZenxTag (ฮ่องกง): พัฒนาเซนเซอร์อัจฉริยะ ตรวจวัดคุณภาพอาหารสด เช่น ค่า pH, H2S และสารเน่าเสียแบบเรียลไทม์
7. Sherapis (ไทย): ผลิตสต็อกก้อนรสกลมกล่อมที่ลดโซเดียมลง 50% เจาะตลาดคนรักสุขภาพและผู้สูงอายุ
8. MAMAY Technologies (อิสราเอล): สร้าง “ภาษารสชาติ” แบบดิจิทัล เพื่อช่วยแบรนด์อาหารวิเคราะห์ความรู้สึกของผู้บริโภคอย่างแม่นยำ
9. Nano Onions (ไทย): พัฒนาเครื่องดื่มสุขภาพจากสาหร่ายด้วยเทคโนโลยีนาโน เสริมภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบ