สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
Search
color contrast
Normal
Black & White
Black & Yellow
font size

NIA เดินหน้าขับเคลื่อน DeepTech ให้เป็นกลไกทางเศรษฐกิจใหม่ของไทย พร้อมโชว์ศักยภาพ 24 ดีพเทคสตาร์ตอัป ที่ผ่านการทดสอบตลาดจริง พร้อมต่อยอดเชิงพาณิชย์ ในงาน Startup Thailand Deep Tech 2025 : DEMO DAY

News 21 ตุลาคม 2568 13

NIA เดินหน้าขับเคลื่อน DeepTech ให้เป็นกลไกทางเศรษฐกิจใหม่ของไทย พร้อมโชว์ศักยภาพ 24 ดีพเทคสตาร์ตอัป ที่ผ่านการทดสอบตลาดจริง พร้อมต่อยอดเชิงพาณิชย์ ในงาน Startup Thailand Deep Tech 2025 : DEMO DAY

 
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดงาน Startup Thailand Deep Tech 2025: DEMO DAY เพื่อแสดงผลงานของผู้ประกอบการสตาร์ตอัปที่ผ่านการบ่มเพาะภายใต้โครงการดังกล่าว มุ่งเป้าผลักดันประเทศไทยสู่ “เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Technology)” โดยมี ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ณ ห้องสยามฮอลล์ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท
 
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า NIA ให้ความสำคัญกับการสร้างวิสาหกิจเริ่มต้น หรือสตาร์ตอัปที่ใช้เทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Tech Startup) ซึ่งไม่เพียงสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง แต่ยังเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมในภูมิภาค โดย NIA มุ่งพัฒนาให้เกิด Deep Tech Startup จำนวนมากขึ้น และสามารถสร้างตลาดใหม่เพื่อพลิกโฉมธุรกิจในปัจจุบันได้จริง
 
โดยในปี 2568 NIA ได้ดำเนิน “โครงการบ่มเพาะและเร่งสร้างวิสาหกิจเริ่มต้น" ตามแผนงานการส่งเสริมธุรกิจนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีเชิงลึกระดับภูมิภาค (Deep Tech Regionalization) เพื่อพัฒนาทักษะผู้บริหารวิสาหกิจที่ใช้เทคโนโลยีเชิงลึก โดยใช้แนวทางการเรียนรู้จากการแก้ปัญหาจริง ร่วมกับการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ และการทดสอบผลิตภัณฑ์หรือบริการ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการแข่งขันทางธุรกิจในระดับภูมิภาคและระดับโลก
 
โดยผลงานของสตาร์ตอัปทั้ง 24 บริษัทที่นำเสนอในงานได้ผ่านการทดสอบตลาดจริง (Proof of Concept: POC) ไม่ใช่เพียงแค่แนวคิดในห้องแล็บ แต่พิสูจน์แล้วว่ามีศักยภาพเชิงพาณิชย์จริง มีทั้งคนเก่ง (Talent) และเทคโนโลยี (Technology) ที่พร้อมก้าวไปสู่ระดับโลก โดยครอบคลุมเทคโนโลยีที่หลากหลาย ทั้งด้านสุขภาพ อาหาร สิ่งแวดล้อม และอุตสาหกรรมอัจฉริยะ ได้แก่
 
1. Merlinium - สตาร์ตอัปด้านวัสดุขั้นสูงของไทย พัฒนา “สารประกอบเมอร์ลิเนียม (Merlinium Compound)” ซึ่งเป็นวัสดุนาโนกึ่งตัวนำและสารประกอบโลหะหายาก (Rare-Earth Materials) สำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เลเซอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าวัสดุจากต่างประเทศ
2. AthenaAI - แพลตฟอร์ม AI วิเคราะห์ DNA เพื่อคาดการณ์ความเสี่ยงโรคและการแพ้ยา ใช้เทคโนโลยี NGS ร่วมกับ AI วิเคราะห์ข้อมูลพันธุกรรมแบบแม่นยำ
3. KYUBE – Low Code Platform ใช้เพื่อสร้าง Software สำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรม
4. Nicha Climate Tech - เทคโนโลยีดักจับและจัดเก็บคาร์บอน (CCUS) เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากภาคอุตสาหกรรมและแปรรูปเป็นวัตถุดิบใหม่
5. KOOM Air - ระบบ IoT ควบคุมเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะผ่านสมาร์ตโฟน ช่วยลดการใช้พลังงานในอาคารและลดการปล่อยคาร์บอน
6. Rewastec - เทคโนโลยีรีไซเคิลขยะพลาสติกและวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร สู่เม็ดพลาสติกคอมโพสิตคุณภาพสูง ตอบโจทย์ Circular Economy
7. Modela AIoT - ระบบ AI + IoT สำหรับโรงงานอัจฉริยะ ที่เปลี่ยนข้อมูลจากเครื่องจักรสู่วิเคราะห์เชิงลึกแบบเรียลไทม์
8. DUSCAP - No-Code AI Application Platform สำหรับงาน Computer Vision และ Automation
9. UPSTAGE - AI-POWERED CASTING PLATFORM ช่วยแบรนด์ค้นหาและจองครีเอเตอร์ที่ผ่านการยืนยันตัวตนได้อย่างปลอดภัยสำหรับการผลิตคอนเทนต์
10. SMART VAR GENERATOR – ระบบประหยัดพลังงานอัจฉริยะที่สามารถกำจัด Reactive Power ในระบบไฟฟ้าแบบ Realtime
11. GUT MICROBIOME TEST – บริการตรวจจุลินทรีย์ในลำไส้จากอุจจาระ
12. WIPLUX SAVING & MANAGEMENT. AI – ผลิตภัณฑ์ IoT ที่ใช้ในการควบคุมไฟฟ้าสำหรับระบบไอทีและอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไปผ่านอินเทอร์เน็ตไปยังคลาวด์
13. HealSphere - โซลูชันด้านสุขภาพจิตแบบครบวงจรที่ผสานเทคโนโลยี AI, EEG และ VR เข้าด้วยกัน
14. FarmUP - แพลตฟอร์มจับคู่อัตโนมัติด้านการค้าเกษตรและโลจิสติกส์ผ่าน AI และ LINE
15. BALDES – นวัตกรรมเครื่องวิเคราะห์การทรงตัว
16. KinSen - นวัตกรรมเส้นอกไก่ 100% โปรตีนสูง ไขมันต่ำ
17. Avagan - Plant-based Cheese ชีสที่ผลิตจากเมล็ดมะม่วงหิมพานต์และถั่วเหลือง
18. MUU - ผงโปรตีนนมจากกระบวนการหมักแบบแม่นยำ (Precision fermentation)
19. MusaWa - ผลิตภัณฑ์อาหารซีเรียลจากแป้งกล้วย แป้งต้านทานการย่อยสูง (Resistant Starch)
20. FERFU – ผลิตภัณฑ์เต้าหู้ออร์แกนิก ที่มีกระบวนการผลิตที่ทำให้เกิดสารกาบาจากกระบวนการหมัก
21. SYNBIOTIC SHOT – ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารพร้อมรับประทานที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อจัดการภาวะเมตาบอลิกซินโดรม
22. PROTINOS – ผลิตภัณฑ์เส้นโปรตีนสูงอบแห้ง ใช้โปรตีนจากไข่ขาวและถั่วเหลือง
23. FERSI X3 - เครื่องดื่มโปรไบโอติกช็อตเพื่อสุขภาพลำไส้และจิตใจ รวม Prebiotic, Probiotic และ Postbiotic ในขวดเดียว ไม่มีน้ำตาล เก็บได้นานโดยไม่ต้องแช่เย็น
24. นมถั่วลายเสือ - เครื่องดื่มนมทางเลือกจากพืช (Plant-based milk)
 
ทั้งนี้ ภายในงานได้รับเกียรติจาก คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมตัดสินรางวัลพร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะ อาทิ นายภาคภูมิ ตัณฑประภา Portfolio Manager, SeaX Ventures, นายสุรศักดิ์ วนิชเวทย์พิบูล หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี แผนกธุรกิจคลาวด์ ประเทศไทย บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด, น.ส.ฐิติพร แสนสุรีย์รังสิกุล Entrepreneur in Residence (EIR), บริษัท วิสอัพ จำกัด, ดร.เบญจวรรณ มุ่งรักษาธรรม Tech Evaluation Director, InnoSpace (Thailand) และ น.ส.มณฑา ไก่หิรัญ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น NIA
 
นอกจากนี้ ตัวแทนภาคอุตสาหกรรมที่ร่วมเป็นพันธมิตรในโครงการเปิดเผยว่า “การร่วมงานกับสตาร์ตอัปในโครงการนี้ช่วยให้สามารถนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ได้เร็วขึ้น ลดต้นทุนการวิจัยเอง และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในตลาดอนาคต”
 
โดย บริษัทที่ได้รับรางวัล Best Performance DeepTech Startup ทั้ง 3 ราย ได้แก่ Merlinium, Athena AI และ Nicha Climate Tech ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัล และขอขอบคุณสตาร์ตอัปดีพเทคทุกรายที่เข้าร่วมโครงการ
 
ผลงานทั้งหมดไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวคิด แต่คือ "ผลงานที่พิสูจน์แล้ว" ว่ามีศักยภาพในการใช้งานจริง มีรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ที่ชัดเจน และพร้อมเติบโตในเชิงพาณิชย์ ด้วยการนำเทคโนโลยีเชิงลึก ไม่ว่าจะเป็น AI, Biotechnology, Advanced Materials หรือ Robotics มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างสรรค์ Solution ที่มีความทันสมัย จะเห็นได้ว่า “Deep Technology คืออาวุธทางเศรษฐกิจใหม่ ที่จะเปลี่ยนไทยจากผู้ผลิตตามคำสั่ง สู่ผู้สร้างเทคโนโลยีของตนเอง”