สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
การให้บริการของ NIA
ความเคลื่อนไหวของ NIA
ช่องทางในการติดต่อกับ NIA
ยกระดับควายไทยสู่สินทรัพย์แห่งอนาคตด้วยแพลตฟอร์ม “เจ้าทุย”
ในวงการผู้เลี้ยงควาย มูลค่าการซื้อขายของควายแต่ละตัวขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และวงศ์ตระกูลของควายตัวนั้นโดยตรง ควายที่เป็นลูกหลานของพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ชื่อดัง มักจะมีราคาสูงกว่าควายทั่วไปอย่างมาก เนื่องจากผู้ซื้อให้ความสำคัญกับสายพันธุกรรมที่แท้จริง และคุณลักษณะที่สืบทอดมา จึงทำให้เป็นที่มาของการเริ่มนำเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) และ NFT (Non-Fungible Token) มาสร้างความโปร่งใสให้ข้อมูลพันธุกรรมควายและยกระดับมาตรฐานการเลี้ยงควายในประเทศไทย
คุณธนบัตร ใคร่นุ่นสิงห์ (ตอง)
เจ้าของผลงานนวัตกรรม “JAOTHUI แพลตฟอร์มใบพันธุ์ประวัติควายไทยในรูปแบบ NFT”
คุณตองเล่าให้เราฟังว่า “ตอนที่ผมเริ่มคิดจะเอาบล็อกเชนมาใช้กับวงการการเลี้ยงควาย ผมเห็นปัญหาชัดเลยครับ โดยเฉพาะเรื่องความโปร่งใสของการระบุข้อมูลสายพันธุ์ ซึ่งมันส่งผลโดยตรงกับราคาควาย สำหรับในตลาดควายงาม ถ้าเป็นลูกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ชื่อดัง ราคาก็พุ่งสูงมากเลยครับ แต่ปัญหาก็คือ บางครั้งข้อมูลพวกนี้ไม่ตรงกับความจริงทำให้คนซื้อเกิดความไม่มั่นใจ ผมเลยมองว่าบล็อกเชนน่าจะเป็นคำตอบในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพราะสามารถบันทึกข้อมูลได้โปร่งใส ตรวจสอบย้อนกลับได้ เราเลยเอาข้อมูลสายพันธุ์ควายไปใส่ไว้ในระบบในรูปแบบ NFT ใบพันธุ์ประวัติ เพื่อให้ทั้งคนซื้อและคนขายมั่นใจได้ว่าสายพันธุ์ที่เห็นคือของจริงแน่นอนครับ”
คุณตองเล่าเสริมว่า “อีกเรื่องที่ผมเห็นชัดเลยคือ วงการควายบ้านเรายังไม่มีการส่งเสริมหรือสร้างมาตรฐานแบบจริงจัง ไม่มีระบบแพลตฟอร์มกลางที่ทุกคนยอมรับร่วมกัน ทั้งเรื่องการเลี้ยง การค้าขาย หรือแม้แต่การเก็บข้อมูลพื้นฐานของควาย เกษตรกรจึงขาดโอกาสในการพัฒนาและเข้าถึงตลาดที่ใหญ่กว่านี้ ผมเลยมองว่าเราต้องมีแพลตฟอร์มที่ช่วยเก็บข้อมูลทุกอย่างไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นประวัติสุขภาพ ประวัติการเลี้ยง หรือสายพันธุ์ เทคโนโลยีบล็อกเชน นี่แหละคือเครื่องมือที่เหมาะสม มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ แล้วทุกฝ่ายก็จะเข้าถึงข้อมูลชุดเดียวกันได้ง่ายขึ้น”
เมื่อเราถามถึงการนำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีเข้าไปให้ผู้ใช้งานทดลองใช้ มีปัญหาอุปสรรคบ้างหรือไม่ คุณตองบอกกับเราว่า “ปัญหาจริง ๆ มันไม่ได้อยู่แค่เรื่องเทคโนโลยีนะครับ สิ่งที่เราต้องเจอบ่อยกว่าคืออคติ หลายคนยังติดภาพว่า ควายหรือคนเลี้ยงควาย คือสิ่งล้าหลัง พอพูดถึงบล็อกเชนกับเกษตรกร ก็จะมีเสียงตามมาทันทีว่า... เขาจะเข้าใจเหรอ? จะใช้งานเป็นหรือเปล่า? คำถามเหล่านี้ มันคือกำแพงที่เราต้องปีนข้ามไปให้ได้ แต่พอได้ลงพื้นที่จริง สิ่งที่เห็นชัดมากคือเกษตรกรสมัยนี้ส่วนใหญ่จะเปิดรับ และไม่กลัวเทคโนโลยี เพียงแต่ต้องอธิบายให้เค้าเข้าใจ และให้เห็นประโยชน์จริง ๆ และเมื่อเกษตรกรเห็นคุณค่า เขาจะไม่ใช่แค่ผู้ใช้งาน แต่จะกลายเป็นคนที่ลุกขึ้นมาผลักดันและบอกต่อการใช้งานเทคโนโลยีนี้ไปพร้อมกับเรา” “แพลตฟอร์ม เจ้าทุย ที่เราพัฒนาขึ้นมานี้ มีเป้าหมายที่ผมตั้งใจคืออยากให้ควายไทยและเกษตรกรผู้เลี้ยงควายได้รับการยอมรับในคุณค่าและเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเราเอง แต่รวมถึงในระดับสากลหรือระดับโลกเลยครับ” คุณตองบอกกับเราพร้อมกับอธิบายแพลตฟอร์มเพิ่มเติมว่า...
“แพลตฟอร์ม เจ้าทุย ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนร่วมกับไมโครชิป เพื่อระบุตัวตนของควายแต่ละตัว และบันทึกข้อมูลสำคัญ เช่น วันเกิด สี เพศ พ่อแม่พันธุ์ และรางวัลที่ได้รับ ข้อมูลดังกล่าวถูกจัดเก็บเป็น Token ID บนเครือข่ายบล็อกเชน ทำให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างโปร่งใสและเชื่อถือได้ อีกทั้งยังมีการพัฒนา ใบพันธุ์ประวัติควายไทยในรูปแบบ NFT ซึ่งไม่สามารถปลอมแปลงได้เพื่อรองรับการใช้ควายเป็นสินทรัพย์ทางเศรษฐกิจในอนาคต”
“ช่วงแรกที่เริ่มพัฒนาแพลตฟอร์มเจ้าทุย เริ่มจากการฝังไมโครชิพให้ควายกว่า 500 ตัว เพื่อเพื่อพิสูจน์แนวคิดว่าตอบโจทย์เกษตรกรจริงๆ จนกระทั่งได้รับทุนสนับสนุนจาก NIA ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะช่วยให้แพลตฟอร์มขยายระบบได้เร็วขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาฟีเจอร์ เช่น ระบบคำนวณอายุควายแบบอัตโนมัติ การทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานกับฟาร์มเกษตรกร พูดได้ว่าทุนจาก NIA ช่วยให้ระบบของเราพร้อมใช้งานจริงและที่สำคัญคือ ทำให้เกษตรกรจำนวนมากสามารถเข้าถึงนวัตกรรมนี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม”
คุณตองแชร์เสียงตอบรับจากผู้ใช้งานให้เราฟังเพิ่มเติมว่า “พอเริ่มใช้งานแพลตฟอร์มเจ้าทุย เราเห็นผลลัพธ์กับเกษตรกรชัดเลยครับ อย่างแรกคือ เขาสามารถดูข้อมูลสายพันธุ์ควายตัวเองได้ครบ ทั้งประวัติ พ่อแม่พันธุ์ วันเกิด น้ำหนัก ผ่านมือถือ ใช้งานง่าย สะดวก และผู้ซื้อขายในระบบเกิดความมั่นใจว่าเป็นสายพันธุ์แท้จริง ๆ ลดความเสี่ยงในการซื้อขายไปได้เยอะ รวมถึงเรื่องการประกวดควายก็เปลี่ยนไป มีการตั้งเกณฑ์ใหม่ให้ควายที่ลงประกวดต้องฝังไมโครชิพ จะได้ยืนยันตัวตนและอายุที่ชัดเจน คำนวณอายุจากระบบได้เลย ไม่ต้องนับฟันแบบเดิม เพิ่มความยุติธรรมให้กับทุกสนาม ปัจจุบัน แพลตฟอร์มเจ้าทุยถูกนำมาใช้ในการประกวดควาย 14 สนามทั่วประเทศ โดย 9 สนามได้ปรับใช้เกณฑ์มาตรฐานจากแพลตฟอร์มเจ้าทุย อีกเรื่องที่สำคัญมากคือ การพัฒนาสายพันธุ์ เราเก็บข้อมูลพ่อแม่พันธุ์ไว้ครบ ทำให้เกษตรกรเลือกผสมพันธุ์ได้แม่นยำขึ้น ช่วยลดต้นทุน และได้ควายที่มีคุณภาพสูงขึ้นจริง ๆ แพลตฟอร์มของผมตอนนี้ มีควายที่ลงทะเบียนในระบบแล้วประมาณ 1,700 ตัว และมีเกษตรกรสมาชิกเข้าร่วมมากกว่า 1,000 ราย”
“อีกหนึ่งในผลลัพธ์ที่สะท้อนถึงประโยชน์จากการใช้งานแพลตฟอร์ม เจ้าทุย คือการนำข้อมูลสายพันธุ์และประวัติของควายมาใช้เป็นหลักฐานในการเข้าถึงแหล่งทุนของเกษตรกร ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลกับระบบเศรษฐกิจฐานราก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคปศุสัตว์ดั้งเดิมอย่างการเลี้ยงควาย ตัวอย่างที่น่าสนใจ คือ เกษตรกรได้นำข้อมูลทะเบียนพันธุ์และรางวัลของควายในระบบเจ้าทุย ไปประกอบ การยื่นขอสินเชื่อกับธนาคาร และได้รับอนุมัติวงเงินสูงถึง 3,500,000 บาท แสดงให้เห็นว่าข้อมูลที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเชื่อมโยงกับศักยภาพทางเศรษฐกิจของควายไทยนั้น สามารถนำมาใช้เป็น สินทรัพย์ทางเลือก ที่สถาบันการเงินยอมรับในฐานะหลักประกันได้” คุณตองเล่าให้เราฟังอย่างภาคภูมิใจ
คุณตองยังบอกกับเราว่า “การเติบโตของแพลตฟอร์ม เจ้าทุย ไม่ได้เกิดจากความพยายามของทีมผู้พัฒนาเพียงฝ่ายเดียว แต่เป็นผลจากความร่วมมือของหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน หรือหน่วยงานด้านเทคโนโลยีและการเงิน ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญในการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับวงการควายไทยในยุคดิจิทัล ยกตัวอย่างเช่น สมาคมอนุรักษ์และพัฒนาควายไทย ที่เข้ามาช่วยยืนยันข้อมูลสายพันธุ์และประวัติควาย ทำให้ระบบน่าเชื่อถือมากขึ้น เชื่อมโยงโครงการเข้ากับเกษตรกรทั่วประเทศ ส่วนแพลตฟอร์มเจ้าทุยเอง ก็ได้เข้าไปพัฒนาระบบสมาชิกและออกใบพันธุ์ประวัติ ช่วยแก้ปัญหาเอกสารล่าช้า และสร้างความเชื่อมั่นระหว่างเกษตรกรกับสมาคมฯ ได้อย่างเป็นรูปธรรม
อีกตัวอย่างคือ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP/CPF) ได้สร้างความร่วมมือกับแพลตฟอร์มเจ้าทุย ในการพัฒนาอาหารสัตว์สูตรเฉพาะสำหรับควาย โดยใช้ความเชี่ยวชาญด้านโภชนาการสัตว์ของ CPF มาเสริมคุณภาพชีวิตควายไทย พร้อมกับขยายโอกาสทางธุรกิจสู่กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงควาย ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า ความสำเร็จของแพลตฟอร์มเจ้าทุย เกิดจากความร่วมมือกับพันธมิตรหลายภาคส่วน ที่มองเห็นคุณค่าร่วมกันในการยกระดับเกษตรกรและเศรษฐกิจควายไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในโลกยุคดิจิทัล”
คุณตองสรุปเป้าหมายในอนาคตว่า “แพลตฟอร์มเจ้าทุยตั้งเป้าที่จะใช้ Big Data เข้ามารวบรวมข้อมูลควายไทยอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ สุขภาพ การเจริญเติบโต หรือผลการประกวด และนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์เพื่อค้นหาแนวโน้มและข้อมูลเชิงลึกที่จะช่วยให้เกษตรกรปรับปรุงการเลี้ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน ยังหวังว่าแพลตฟอร์มนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้เกษตรกรเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้น โดยนำข้อมูลควายที่บันทึกไว้อย่างโปร่งใสมาใช้เป็นหลักฐานในการขอสินเชื่อ ยิ่งไปกว่านั้น แพลตฟอร์มเจ้าทุยจะเชื่อมโยงฐานข้อมูลควายกับตลาดซื้อขายควายและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ ทำให้การซื้อขาย หรือการประมูล ดำเนินไปอย่างราบรื่นด้วยข้อมูลที่มีมาตรฐานและเชื่อถือได้ การขยายตลาดเช่นนี้จะสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ และเพิ่มช่องทางรายได้ให้แก่เกษตรกร พร้อมทั้งทำให้ควายไทยและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น เป้าหมายทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่จะยกระดับวงการควายไทยให้เกิดความยั่งยืนต่อไปในอนาคต”
ขอขอบคุณบทสัมภาษณ์และรูปภาพจาก
ช่องทางติดตาม: JAOTHUI แพลตฟอร์มใบพันธุ์ประวัติควายไทยในรูปแบบ NFT
สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย