สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
การให้บริการของ NIA
ความเคลื่อนไหวของ NIA
ช่องทางในการติดต่อกับ NIA
“Kaminchan Plus” นวัตกรรมเสริมอาหารจากขมิ้นชัน ยกระดับสมุนไพรไทยสู่ตลาดสุขภาพ
วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ “ขี้มิ่น” ชื่อเรียกที่คนใต้คุ้นเคย หรือ ที่คนพื้นถิ่นอื่น ๆ มักจะเรียกว่า “ขมิ้น” ซึ่งพวกเรามักจะพบในเมนูอาหาร โดยเฉพาะอาหารใต้ ซึ่งขมิ้นไม่ได้มีดีแค่นำไปทำอาหาร แต่ยังสามารถนำไปพัฒนาเพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งในวันนี้มีผู้ประกอบการจากเมืองนครศรีธรรมราชจะมาเล่าเรื่องราวในการพัฒนานวัตกรรมจากพืชพื้นถิ่นภาคใต้ให้เราฟัง โดยคุณปรียาวรรณ มีนุ่น (คุณปุ๊) ซึ่งเป็นผู้นำคนสำคัญในการผลักดันการพัฒนาโครงการ “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารขมิ้นในน้ำมันมะพร้าวไฟโตโซม” ที่ได้รับการสนับสุนนจาก สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA
คุณปรียาวรรณ มีนุ่น (คุณปุ๊)
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น แอนด์ เอ็น เนเจอร์ ริช จำกัด
คุณปุ๊ได้เล่าถึงแรงบันดาลใจในการพัฒนาโครงการนี้ ว่า “เริ่มตั้นตั้งแต่ปี 2562 เราเห็นขมิ้นชันในชุมชนมีการเพาะปลูกอยู่ทุกครัวเรือน และมีการปลูกเป็นอาชีพอย่างจริงจังในชุมชน ที่เราอยู่อาศัย โดยส่วนใหญ่ชาวบ้านจะจำหน่ายให้กับพ่อค้าคนกลางเพื่อนำไปจำหน่ายต่อในตลาดต่าง ๆ ในจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียง แต่ก็มักได้ยินเสียงบ่นจากคนในหมู่บ้านว่า นับวันราคาขมิ้นชันยิ่งถูกลง ไม่คุ้มค่ากับการลงแรงเพาะปลูก จึงเป็นจุดกำเนิดที่มีแนวคิดอยากนำขมิ้นชันมาแปรรูป โดยตอนแรกไม่ได้มองว่าจะนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แค่อยากเห็นคนในชุมชนเกิดรายได้มากยิ่งขึ้น และไม่โดนกดราคาซื้อขายแค่นั้นเอง”
คุณปุ๊เล่าต่อว่า “จุดเปลี่ยนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์เกิดจากการได้ไปพบกับอาจารย์ท่านหนึ่ง คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธนากรณ์ ดำสุด อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช ตอนที่ NIA มาจัดกิจกรรม Roadshow ที่มหาวิทยาลัย ซึ่งตอนแรกแค่อยากเข้าไปฟังเฉย ๆ เพราะไม่ได้เข้าใจเรื่องนวัตกรรม และทำไมเราถึงต้องทำนวัตกรรม แต่ด้วยความโชคดี ได้พูดคุยกับอาจารย์ จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์มาเรื่อย ๆ เป็นเวลากว่า 1 ปี กว่าที่เราจะเข้าไปนำเสนอผลงานกับทาง NIA ซึ่งตอนแรกเองที่เข้าไปขอทุนสนับสนุนโครงการ มีการแจ้งผลการพิจารณาว่าไม่ผ่าน ตอนนั้นรู้สึกเสียใจมาก แต่เราก็ไม่ย่อท้อ คุณปุ๊กลับไปพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมตามคำแนะนำจนในที่สุดก็ได้รับทุนสนับสนุน ในปี 2565 จนพัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์สำเร็จและสามารถจำหน่ายในตลาดได้”
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธนากรณ์ ดำสุด
อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชมงคลศรีวิชัย
คุณปุ๊เล่าต่ออีกว่า “กว่าจะมีวันนี้ที่เราสามารถสร้างรายได้มากกว่า 480,000 บาทต่อเดือน เราผ่านอะไรมาเยอะจนสามารถพูดได้ว่าลูกสาวชาวคนคอน ก็สามารถทำได้ มันไม่ได้ง่ายเลยสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ และเมื่อชุมชนเห็นถึงความเป็นไปได้ ในพื้นที่เองชาวบ้านและหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ ก็เริ่มเข้ามาสนับสนุนชุมชนมากขึ้นจนสามารถตั้งเป็นกลุ่มชุมชนผู้เพาะปลูกขมิ้นชัน และในอนาคตพวกเราวางแผนเพื่อขอรับรองมาตรฐาน (Good Agricultural Practices: GAP) และ มาตรฐาน Organic Thailand ให้กับพื้นที่เพาะปลูกในชุมชนของเรา”
“ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารขมิ้นในน้ำมันมะพร้าวไฟโตโซม”
เมื่อเราถามคุณปุ๊ว่า มีแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไปอย่างไร เราได้คำตอบว่า “จากจุดเริ่มต้นที่เราได้รับการสนับสนุนการพัฒนา “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารขมิ้นในน้ำมันมะพร้าวไฟโตโซม” เราได้ศึกษาเพิ่มเติมร่วมกับอาจารย์ธนากรณ์ ในการพัฒนาสารเคอร์คูมิน (Curcumin) ให้ดีกว่าเดิม โดยใช้เทคนิคการสกัดด้วยตัวทำละลายจากธรรมชาติ (Natural solvent) ร่วมกับการตรึงเอนไซม์ในกลุ่มโปรตีเอส (protease) และโบรมีเลน (bromelain) ร่วมกับการสกัดสมุนไพรพื้นถิ่น คือ ไพล ที่มีสารสำคัญ คือ ดีเอ็มพีบีดี Sabinene, Terpineol,(E)-1-(3,4-dimethoxyphenyl) butadiene (DMPBD) และว่านเอ็นเหลือง ที่มีสารสำคัญ คือ คูเซอเรโนน (Curzerenone) ซึ่งพบว่าสารสำคัญดังกล่าวมีคุณสมบัติเด่นในการลดปวด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และสามารถยับยั้งการอักเสบได้ดี จึงได้พัฒนาเป็น “ผลิตภัณฑ์นวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อเอทโธโซม” และได้รับทุนสนับสนุนต่อยอดจาก NIA เมื่อปี 2566 จนสามารถทำยอดขายในปี 2567 กว่า 8,000,000 บาท ซึ่งขายดีมากในกลุ่มร้านสปาในต่างประเทศ”
“ผลิตภัณฑ์นวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อเอทโธโซม”
คุณปุ๊ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “เรามีวันนี้ได้เพราะการที่ได้รู้จัก NIA ในวันนั้น ทำให้เปิดโลกและได้รับประสบการณ์ที่ดีมาก อีกทั้ง ยังได้รับโอกาสได้พบเจอคนเก่ง ๆ มากมาย ที่คอยให้คำแนะนำ ในการดำเนินธุรกิจและพัฒนาผลิตภัณฑ์ จนทุกวันนี้เราได้เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยเหลือชุมชนของตัวเอง และที่สำคัญเราไม่ได้โดดเดี่ยวในการทำนวัตกรรม ยังมีหน่วยงานต่าง ๆ ที่คอยช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยอย่างพวกเรา นอกจากนี้ ต้องขอบคุณอาจารย์ธนากรณ์ ดำสุด ที่ไม่ยอมแพ้พร้อมเราในวันนั้น คอยให้กำลังใจและพัฒนาโครงการจนประสบความสำเร็จในวันนี้ เราเองก็รู้สึกภูมิใจที่ได้กลับมาเห็นรอยยิ้มของ ลุง ป้า น้า อา ในชุมชน ที่ได้รับรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายขมิ้นชันให้กับเรา
ขอขอบคุณบทสัมภาษณ์และรูปภาพจาก
ขอขอบคุณที่ปรึกษาโครงการ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
สัมภาษณ์และเรียบเรียงบทความโดย